top of page

ไขมันทรานส์ควรเลี่ยง ไม่เสี่ยงอายุสั้น

สวัสดีค่ะ วันก่อนแม่ค้าได้ส่งภาพปริมาณไขมันทรานส์ในโดนัทมาให้ดู วันนี้เลยขอมาเขียนบทความเกี่ยวกับไขมันทรานส์ให้อ่านเพิ่มเติมกันตามสัญญาค่ะ

ใครยังไม่รู้ว่าไขมันมีกี่ชนิด แล้วแต่ละชนิดดีหรือไม่ดีอย่างไร กลับไปอ่านบทความเรื่องไขมันได้ก่อนนะคะ คลิก


ไขมันทรานส์ (trans fat) เป็นไขมันไม่อิ่มตัว (unsaturated fat) ซึ่งพลอยขอบอกเลยว่าเป็นไขมันที่อันตรายมาก เพราะเป็นไขมันร้ายที่ทำให้เกิดโรคหลากชนิด และยังไปทำลายไขมันดีในร่างกายด้วย

อาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันทรานส์สังเกตได้ง่ายๆค่ะ เราจะเจอทั้งหมด 2 รูปแบบในชีวิตประจำวัน 1. ถ้ามาจากธรรมชาติจะมีคุณสมบัติแข็งเป็นไข เจอในเนื้อสัตว์ นม แต่เจอในปริมาณน้อย 2. ไขมันทรานส์ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมา ซึ่งมักใช้ในอุตสาหกรรมอาหารอย่างแพร่หลายเพราะช่วยให้อาหารมีอายุที่ยาวนานขึ้น อย่างที่เห็นได้ชัดเจนสุดก็คือ น้ำมันพืชทั่วไปตามท้องตลาด เพราะน้ำมันพืชในปัจจุบันมีการเติมไฮโดรเจนเข้าไปเพื่อทำให้น้ำมันไม่เหม็นหืน เช่น น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันข้าวโพด, น้ำมันทานตะวัน และที่โดนัทมีไขมันทรานส์เยอะเพราะใช้การทอดแบบชุ่มน้ำมัน

ผลร้ายจากไขมันทรานส์ การที่เราทานอาหารที่มีไขมันทรานส์มากๆ ส่งผลให้ระดับไขมันเลว (LDL) ให้เลือดเพิ่มสูงขึ้น และลด HDL ไขมันชนิดดีให้ลดลง ทำให้คอเลสเตอรอลในเนื้อเยื่อ และผนังหลอดเลือดมีมากขึ้น ความสามารถในการจับตัวของลิ่มเลือดลดลง การอุดตันของการไหลเวียนเลือดย่อมเพิ่มมากขึ้น และเป็นสาเหตุสำคัญเบื้องต้นที่ทำให้เกิดปัญหาตามมาคือ 1. น้ำหนักและไขมันส่วนเกินเพิ่มมากขึ้น 2. มีสภาวการณ์ทำงานของตับผิดปกติ 3. มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด

Trans-fat แย่ขนาดนี้ทำไมถึงฮอตฮิตอยู่ ต้องเท้าความก่อนว่าก่อนปี พ.ศ 2533 หลายคนไม่รู้ว่าไขมันทรานส์มีโทษต่อร่างกาย ไขมันทรานส์จึงใช้ในอุตสาหกรรมอาหารอย่างแพร่หลาย แต่ต่อมาก็ได้มีงานวิจัยเกิดขึ้นว่า ไขมันทรานส์นี่แหละ เป็นตัวการหลักที่ทำให้คนเจ็บป่วยทั้งโรคหัวใจและ stroke อย่างหลายประเทศ เช่น อเมริกาก็มีกฎหมายควบคุมไขมันทรานส์ออกมาแล้ว ส่วนบ้านเราสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเตรียมประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาเดือนมิถุนายนนี้ และให้เวลาปรับตัวหลังประกาศใช้ 1 ปี โดยหากมีการฝ่าฝืน มีบทลงโทษทางอาญาทั้งจำและปรับ ขณะที่ก่อนหน้านี้สหรัฐอเมริกาประกาศใช้กฎดังกล่าว ซึ่งพบสถิติผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังลดลงเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดีค่ะ

เคล็ดลับการเลือกซื้อของ ในเมื่อกว่าจะมีกฎหมายมารองรับอีกเป็นปี พลอยขอมาแบ่งปันเทคนิคนะคะ 1. ดูแค่คำว่า Trans fat 0% ไม่พออีกต่อไป เพราะบางทีมันอาจจะมาในรูปแบบอื่น ให้สังเกตคำว่า PHOs ย่อมาจาก partially hydrogenated oils น้ำมันที่ผ่านการเติมไฮโดรเจนนั่นเอง 2.เลือกรับประทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดหนัง ไขมันต่ำ 3.เลือกอาหารที่มาจากธรรมชาติ เช่น นมlow fat ปลา ถั่ว 4.เลือกอาหารที่ผ่านการนึ่ง อบ ย่าง แทนการทอด

อาหารทางร้านผ่านทุกข้อเลยค่ะ ที่สำคัญอาหารคลีนเราใช้น้ำมันรำข้าวในการปรุงอาหารในปริมาณต่ำมากค่ะ แทบจะเป็นละอองสเปรย์ ที่เลือกใช้เพราะปราศจากไขมันทรานส์ (Free of trans-fat) และมีจุด smoke point สูงช่วยลดความเสี่ยงต่อการได้รับสารก่อมะเร็งที่มีในควันน้ำมัน เรื่องนี้เดี๋ยวมาต่อตอนหน้านะคะ :)

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.heart.org/HEARTORG/HealthyLiving/Diet-and-Lifestyle-Recommendations_UCM_305855_Article.jsp#.WvlgSYiFPic

Featured Posts
Recent Posts
Search By Tags
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Instagram-v051916_200
  • line-icon
bottom of page