Ketogenic Diet คืออะไร
คีโตเจนิค ไดเอตคืออะไร ทำไมคนกินเยอะกันจัง? หลายๆคนมีเพื่อนกินคีโตแล้วน้ำหนักลดเยอะมาก แต่หลายคนก็ทำได้แป้บเดียวก็เลิก มันคืออะไร ทานอาหารแบบไหน เหมือนอาหารคลีนหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบค่ะ
การกินคีโตคือการกินอาหารที่คุมสารอาหารโดยเน้นการกินไขมันสูง+งดน้ำตาล เพื่อเปลี่ยนระบบร่างกายในการนำพลังงานไขมันไปใช้แทนน้ำตาล เรียกว่าเปลี่ยนจาก Sugar burner to Fat burner ค่ะ
การกินคีโต เราจะกินในสัดส่วนตามนี้ 1.Fat 75% แบ่งเป็น * Saturated fat (ไขมันอิ่มตัว) 30% เช่น น้ำมันมะพร้าว เนย มันหมู * Monounsaturated fat (ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว) 50% เช่น น้ำมันมะกอก อโวคาโด ถั่วต่างๆ * Polyunstaurated fat (ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน) 20% เช่น น้ำมันดอกทานตะวัน 2.Protein 20% 3.Carb 5% หรือไม่เกิน 20 กรัม (งดแป้งและน้ำตาลเด็ดขาด ค่า carb ที่ได้จะมาจากผักและถั่วต่างๆ)
มาถึงตรงนี้คนที่ทานคลีนแบบพวกเรามาโดยตลอดคงจะตกใจไม่ใช่น้อยว่า ทำไมถึงทานไขมันได้เยอะขนาดนี้ โดยเฉพาะไขมันอิ่มตัว (Saturated fat) มันไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายหรอ? พลอยนำคำตอบจาก Thai Keto Pal มาให้อ่านกันค่ะ
แล้วจะคำนวณอย่างไร ว่าจะทานยังไง ตามที่เคยเขียนบทความไปแล้ว ทุกครั้งในการลดน้ำหนัก ต้องกินในน้อยกว่า BMR ไม่มากกว่า TDEE การกินคีโตก็ต้องใช้การคำนวณเช่นกันค่ะ เว็บคำนวณคลิก >> https://www.lokehoon.com/app.php?q_id=calculate_bmr_tdee
ตัวอย่างการคำนวณ นส.A คำนวณ BMR TDEE ออกมาได้ตามนี้
อยากลดน้ำหนัก เลยเลือกทาน 1,500 แคลอรี จึงได้โควต้าการทานดังนี้ -คาร์บ 5% = (1500/100)*5 = 75 คาร์บ 1 กรัมให้พลังงาน 4 kcal จึงทานคาร์บได้ 75/4 = 19 กรัม -โปรตีน 20% = (1500/100)*20 = 300 โปรตีน 1 กรัมให้พลังงาน 4kcal จึงทานโปรตีนได้ 300/4 = 75 กรัม -ไขมัน 75% = (1500/100)*75 = 1125 ไขมัน 1 กรัมให้พลังงาน 9 kcal จึงทานไขมันได้ 1125/9 =125 กรัม
ส่วนการทานคีโตเป็นการกินไขมันแล้วลดไขมันได้ยังไง? เหตุผลที่การกินคีโตต้องจำกัดปริมาณคาร์บ เพราะต้องการให้ร่างกายหยุดการเบิร์นคาร์บและน้ำตาล และบังคับให้ร่างกายเปลี่ยนมาใช้พลังงานไขมันแทน จนร่ายการเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่า ภาวะคิโตซิส (Ketosis) นั่นเองค่ะ
แต่ทั้งนี้ทุกอย่างมี 2 ด้านเสมอ การทานอาหารคีโตไม่เหมาะกับทุกคนเสมอไป ก่อนที่จะทานให้หาข้อมูลเยอะๆ และถ้ายิ่งแนะนำให้ผู้ใหญ่ที่มีโรคประจำตัวเยอะ ยิ่งไม่แนะนำค่ะ
ตัวอย่างกระทู้เตือนภัย
สุดท้ายนี้อย่างไรก็ตามกินอาหารให้พอดีๆ รักแบบไหน กินแบบนั้น กินให้พอดีไม่มากไป
ชีวิตจะสมดุลย์ค่า
หากชอบบทความนี้แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้แม่ค้าด้วยนะคะ
ขอบคุณค่า
Comments