top of page

ประกาศห้ามใช้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนคืออะไร?

เนื่องจากวันศุกร์ที่ 13 ก.ค. 61 ที่ผ่านมามีประกาศจากกระทรวงสาธารณสุขออกมาห้ามใช้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน ( PHOs)ออกมา

เลยอยากจะมาเขียนแนะนำเพิ่มเติมค่ะ

เกริ่นก่อนว่ากระบวนการ hydrogenation หรือการเติมไฮโดนเจนในน้ำมันเป็นกระบวนการทางเคมีที่ทำน้ำมันพืชชนิดไม่อิ่มตัว (พวกเหลวๆ) ให้กลายเป็นของแข็ง

จะแบ่งเป็น 2 แบบ

1. Partial hydrogenation (คือทำปฏิกิริยาไม่สมบูรณ์)

2. Fully hydrogenation (ปฏิกิริยาสมบูรณ์)

แบบแรกนั่นก็คือ Partially Hydrogenated Oils (PHOs)ที่กฎหมายบ้านเราแบนไปนั่นเอง ซึ่งน้ำมันตัวนี้มี ไขมันทรานส์

ส่วนแบบที่สองได้น้ำมันที่เรียกว่า Fully hydrogenated Oils (FHOs) ซึ่งตัวนี้ไม่ใช่ไขมันทรานส์ ซึ่งปลอดภัยกว่าแบบแรก

ดังนั้นสินค้าต่างๆต้องปรับตัวนำ PHOs ออกจากผลิตภัณฑ์ต่างๆภายใน 180 วัน

ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี แฮปปี้กับชีวิตคนในประเทศไทยมากๆ เพราะไขมันทรานส์ให้โทษมากกับร่างกาย

ให้โทษยังไง อันตรายแค่ไหน

สามารถย้อนอ่านบทความที่เคยเขียนไว้เรื่องไขมันทรานส์ได้ที่ลิงค์นี้ค่ะ https://www.under360food.com/single-post/transfat

แต่! ภาคอุตสาหกรรมจะปรับตัวกันอย่างไรต้องลุ้นต่อไป

ที่แม่ค้าคิดไว้ คือภาคอุตสาหกรรมบ้านเราน่าจะใช้ Fully hydrogenated Oils (FHOs) เข้ามาแทน หรือมีกระบวนการดัดแปรไขมันและน้ำมันด้วยวิธีอื่นๆ เข้ามาทดแทนแน่นอนค่ะ เช่น Interesterification ซึ่งกว่าจะมีบทความพิสูจน์ว่าเป็นอันตรายต่อร่างกายก็ใช้เวลาอีกหลายปี...

ดังนั้นเราหวังให้ผู้ผลิต ผลิตแต่ของสุขภาพออกมาก็คงจะเป็นไปได้ยาก

เพราะคนเราชอบทานของมัน ของอร่อย ดังนั้นเราควรเลือกทานกันเองด้วยนะคะ

แล้วคำถามถัดไปที่หลายคนอยากรู้เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ก็คือ แล้วตัว Fully Hydrogenated Oils มีพิษมีภัยเหมือนไขมันทรานส์หรือไม่?

ตอบเลยว่า โทษของมันไม่มากเท่าไขมันทรานส์แน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะดีสำหรับร่างกาย

เพราะมันก็คือน้ำมันจากการเติมไฮโดรเจนเข้าไปเช่นกัน ซึงทำให้เกิด stearic acid หรือไขมันอิ่มตัวนั่นเอง ถ้าใครยังนึกภาพไม่ออก ยกตัวอย่างเช่น ไขมันจากเนื้อสัตว์ แบบไขมันหมู

ซึ่งไขมันอิ่มตัวเป็นไขมันที่ไม่ดีรองลงมาจากไขมันทรานส์เลยนะคะ

เพราะจากข้อมูลทางการแพทย์มีคำแนะนำให้ลดการบริโภคไขมันอิ่มตัวด้วย เพราะไขมันอิ่มตัวมีความเชื่อมโยงในการเพิ่มระดับไขมันเลว LDL ในร่างกาย รวมถึงเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดและหัวใจมากขึ้น

ดังนั้นแม่ค้ายังคงแนะนำว่าเลี่ยงอาหารจำพวก Fast food, อาหารเบเกอรี่, อาหารที่ผ่านการ processed แล้วได้เป็นดีที่สุด เพราะถึงแม้ในอนาคตป้ายฉลากของผลิตภัณฑ์จะทำให้เราสบายใจขึ้นเพราะอาหารไม่มีไขมันทรานส์ แต่สินค้าก็จะหาไขมันอย่างอื่นมาทดแทนซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพได้เช่นกัน อย่าให้โดนหลอกไปกับคำว่า Trans fat 0 อย่างเดียวนะคะ

ส่วนไขมันที่ควรทานคือไขมันประเภท polyunsaturated Fat(ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน) พบได้ในพืช ผัก เป็นไขมันประเภทที่ดี

ส่วนอีกประเภทซึ่งเป็นไขมันที่ดีที่สุดคือ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว Monounsaturated Fat พบได้ในน้ำมันมะกอก อะโวคาโด้ น้ำมันรำข้าว น้ำมันคาโนลา ฯลฯ

รู้แบบนี้แล้วเรามาปรับตัวด้วยการเลือกทานอาหารสุขภาพกันดีกว่าค่ะ

ทานอาหารคลีนของเราก็ไม่เจอ Trans fat นะคะ อิอิ้

Credit

https://www.consumerreports.org/cro/news/2013/04/q-a-is-fully-hydrogenated-oil-better-for-you-than-partially-hydrogenated-oil/index.htm

https://healthyforgood.heart.org/eat-smart/articles/polyunsaturated-fats

https://healthyforgood.heart.org/eat-smart/articles/monounsaturated-fats

Comments


wix-edit-1.jpg
Featured Posts
Recent Posts
Search By Tags
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Instagram-v051916_200
  • line-icon
bottom of page