น้ำปลา Low Sodium VS น้ำปลาธรรมดา เลือกแบบไหนดีต่อสุขภาพ?
- chutichawannan
- 19 พ.ค.
- ยาว 2 นาที

เชื่อว่าคนไทยทุกบ้านต้องมีน้ำปลาติดครัว เพราะเป็นเครื่องปรุงที่ขาดไม่ได้ในอาหารไทย แต่ในยุคที่ทุกคนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น คำว่า "Low Sodium" หรือ "โซเดียมต่ำ" กลายเป็นคีย์เวิร์ดฮอตฮิตบนขวดน้ำปลาหลายยี่ห้อ แล้วน้ำปลา Low Sodium กับน้ำปลาธรรมดาต่างกันยังไง? แบบไหนดีกว่ากัน? วันนี้เรามาไขข้อสงสัยกันแบบละเอียดยิบ!
น้ำปลาคืออะไร? ทำไมคนไทยถึงใช้กันมากขนาดนี้
น้ำปลาเป็นเครื่องปรุงที่ได้จากการหมักปลากับเกลือ มีประวัติศาสตร์ยาวนานในอาหารเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ สำหรับคนไทย น้ำปลาไม่ใช่แค่เครื่องปรุงรสเค็ม แต่ยังให้รสอูมามิ (Umami) หรือรสกลมกล่อมที่ทำให้อาหารไทยมีเอกลักษณ์อันโดดเด่น
เราใช้น้ำปลาในอาหารเกือบทุกประเภท ตั้งแต่:
ผัดกระเพรา ผัดผักบุ้ง
ต้มยำ แกงส้ม แกงเลียง
ส้มตำ ยำต่างๆ
น้ำจิ้มสารพัดชนิด
แม้แต่เติมลงในข้าวต้มหรือโจ๊ก
น้ำปลาธรรมดา VS น้ำปลา Low Sodium: ความแตกต่างที่สำคัญ
1. ปริมาณโซเดียม
น้ำปลาธรรมดา:
มีปริมาณโซเดียมสูง โดยเฉลี่ยประมาณ 1,500-2,000 มิลลิกรัมต่อช้อนโต๊ะ
รสชาติเค็มจัดตามแบบฉบับดั้งเดิม
ไม่มีการลดหรือดัดแปลงปริมาณเกลือในกระบวนการผลิต
น้ำปลา Low Sodium:
มีปริมาณโซเดียมน้อยกว่า โดยทั่วไปลดลง 30-50% เมื่อเทียบกับน้ำปลาธรรมดา
เฉลี่ยประมาณ 700-1,000 มิลลิกรัมต่อช้อนโต๊ะ
ผ่านกระบวนการพิเศษเพื่อลดปริมาณเกลือหรือโซเดียม
2. กระบวนการผลิต
น้ำปลาธรรมดา:
ผลิตจากการหมักปลากับเกลือในอัตราส่วนตามสูตรดั้งเดิม
ใช้เวลาหมัก 12-18 เดือน (ขึ้นอยู่กับแต่ละผู้ผลิต)
ไม่มีการแทรกแซงเพื่อลดปริมาณโซเดียม
น้ำปลา Low Sodium:
ใช้เทคนิคพิเศษในการลดปริมาณโซเดียม เช่น:
การกรองผ่านเมมเบรนพิเศษที่ดักจับโมเลกุลของเกลือบางส่วน
การเจือจางแบบควบคุมคุณภาพ
การใช้สารทดแทนบางชนิดเพื่อคงรสชาติ
มีการเพิ่มขั้นตอนพิเศษในกระบวนการผลิต
3. รสชาติและกลิ่น
น้ำปลาธรรมดา:
รสชาติเข้มข้น เค็มจัด มีรสอูมามิชัดเจน
กลิ่นหอมเฉพาะตัวแบบดั้งเดิม
ให้รสชาติแบบต้นตำรับที่คนไทยคุ้นเคย
น้ำปลา Low Sodium:
รสชาติอ่อนกว่า เค็มน้อยลง
ความเข้มข้นของรสอูมามิอาจลดลงเล็กน้อย
บางยี่ห้ออาจมีการปรับปรุงกลิ่นและรสเพื่อชดเชยการลดโซเดียม
ทำไมต้องเลือกน้ำปลา Low Sodium?
ประโยชน์ต่อสุขภาพที่น่าสนใจ
ลดความเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง การบริโภคโซเดียมมากเกินไปเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือด
เหมาะสำหรับผู้มีโรคประจำตัว ผู้ที่มีโรคความดันโลหิตสูง โรคไต หรือโรคหัวใจ มักได้รับคำแนะนำให้ควบคุมการบริโภคโซเดียม น้ำปลา Low Sodium จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
ลดการบวมน้ำ โซเดียมทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำ ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการบวมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะขาและเท้า
ช่วยควบคุมน้ำหนัก การลดโซเดียมสามารถช่วยลดการกักเก็บน้ำในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำหนักตัวลดลงได้
เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรักสุขภาพ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการทานอาหารไทยแบบดั้งเดิม แต่ยังคงใส่ใจในสุขภาพ
ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อน้ำปลา Low Sodium
วิธีเลือกซื้อน้ำปลา Low Sodium คุณภาพดี
ตรวจสอบฉลากโภชนาการ
ดูปริมาณโซเดียมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
เปรียบเทียบระหว่างแบรนด์ต่างๆ เพื่อหาแบรนด์ที่มีโซเดียมต่ำที่สุด
สังเกตส่วนประกอบ
น้ำปลาคุณภาพดีควรมีส่วนประกอบหลักเพียงปลาและเกลือ
หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีวัตถุกันเสีย สารเคมี หรือสารแต่งกลิ่นรสมากเกินไป
ดูสีและความใส
น้ำปลาคุณภาพดีควรมีสีน้ำตาลอำพันใส ไม่ขุ่น ไม่มีตะกอน
หากมีตะกอนมากเกินไปอาจแสดงถึงการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน
เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ
แบรนด์ที่มีประวัติยาวนานและมีชื่อเสียงด้านคุณภาพ
แบรนด์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานต่างๆ เช่น อย., HACCP, GMP
ดูวันหมดอายุ
เลือกผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ใกล้วันหมดอายุ
น้ำปลาที่ผลิตใหม่มักมีรสชาติดีกว่า
น้ำปลา Low Sodium เหมาะกับอาหารประเภทไหน?
การใช้น้ำปลา Low Sodium อาจต้องปรับวิธีการปรุงอาหารเล็กน้อย เพราะรสชาติจะแตกต่างจากน้ำปลาธรรมดา เหมาะกับ:
อาหารประเภทผัด น้ำปลา Low Sodium ช่วยให้ควบคุมความเค็มได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเค็มเกินไป
แกงจืด ต้มจืด เหมาะมากสำหรับอาหารประเภทนี้ เพราะจะไม่ทำให้น้ำซุปเค็มจนเกินไป
ยำหรือส้มตำ ช่วยให้น้ำยำมีรสชาติกลมกล่อมโดยไม่เค็มจัด
น้ำจิ้ม ทำให้น้ำจิ้มมีความเค็มที่พอดี ไม่กลบรสชาติอื่นๆ
อาหารสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ เหมาะกับการปรุงอาหารให้กลุ่มคนที่ต้องควบคุมการบริโภคโซเดียม
เปรียบเทียบต้นทุนและความคุ้มค่า
น้ำปลาธรรมดา:
ราคาถูกกว่า โดยทั่วไปประมาณ 30-50 บาทต่อขวด (700ml)
หาซื้อง่าย มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์
เหมาะกับการปรุงอาหารทั่วไปที่ไม่ต้องคำนึงถึงปริมาณโซเดียม
น้ำปลา Low Sodium:
ราคาสูงกว่า โดยทั่วไปประมาณ 50-80 บาทต่อขวด (700ml)
อาจหาซื้อยากกว่า มักพบในซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่หรือร้านค้าเฉพาะทาง
ความคุ้มค่าขึ้นอยู่กับความจำเป็นด้านสุขภาพของผู้บริโภค
ข้อควรระวังในการใช้น้ำปลา Low Sodium
รสชาติที่แตกต่าง
อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับรสชาติที่อ่อนกว่า
อาจต้องเพิ่มปริมาณการใช้เพื่อให้ได้รสชาติที่ต้องการ
การเก็บรักษา
เก็บในที่เย็นและแห้ง ห่างจากแสงแดด
ปิดฝาให้สนิทหลังใช้งานเพื่อรักษาคุณภาพและรสชาติ
ไม่ควรเข้าใจผิดว่าสามารถใช้ได้อย่างไม่จำกัด
แม้จะมีโซเดียมต่ำ แต่ก็ยังคงมีโซเดียมอยู่
ยังต้องคำนึงถึงปริมาณการใช้ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องจำกัดโซเดียมอย่างเคร่งครัด
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับน้ำปลา Low Sodium
Q: น้ำปลา Low Sodium มีรสชาติเหมือนน้ำปลาธรรมดาไหม? A: ไม่เหมือนทีเดียว น้ำปลา Low Sodium จะมีรสชาติอ่อนกว่า เค็มน้อยกว่า แต่ผู้ผลิตพยายามรักษากลิ่นและรสอูมามิให้ใกล้เคียงกับน้ำปลาธรรมดามากที่สุด
Q: ผู้ป่วยโรคไตสามารถใช้น้ำปลา Low Sodium ได้หรือไม่? A: ผู้ป่วยโรคไตควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการก่อนใช้ เพราะแม้จะเป็น Low Sodium แต่ก็ยังมีปริมาณโซเดียมที่อาจเกินกว่าที่แพทย์แนะนำ
Q: น้ำปลา Low Sodium มีวิธีการเก็บรักษาแตกต่างจากน้ำปลาธรรมดาหรือไม่? A: วิธีการเก็บรักษาไม่แตกต่างกัน ควรเก็บในที่เย็น แห้ง ห่างจากแสงแดดโดยตรง และปิดฝาให้สนิทหลังใช้งาน
Q: สามารถใช้น้ำปลา Low Sodium ทดแทนน้ำปลาธรรมดาในทุกเมนูได้หรือไม่? A: สามารถใช้ทดแทนได้ในทุกเมนู แต่อาจต้องปรับปริมาณการใช้เพื่อให้ได้รสชาติที่ใกล้เคียงกับเมนูต้นตำรับ
Q: น้ำปลา Low Sodium เหมาะกับเด็กหรือไม่? A: เหมาะสมกว่าน้ำปลาธรรมดา เนื่องจากเด็กควรได้รับปริมาณโซเดียมน้อยกว่าผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตาม ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม
การเลือกน้ำปลาแบบไหนให้เหมาะกับคุณ
การเลือกระหว่างน้ำปลาธรรมดาและน้ำปลา Low Sodium ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ:
สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคไต โรคหัวใจ น้ำปลา Low Sodium เป็นทางเลือกที่ดีกว่า
สำหรับผู้ที่รักสุขภาพและต้องการควบคุมการบริโภคโซเดียม น้ำปลา Low Sodium ช่วยให้ยังคงสามารถรับประทานอาหารไทยได้โดยไม่กังวลเรื่องปริมาณโซเดียมมากเกินไป
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติดั้งเดิมและไม่มีข้อจำกัดด้านสุขภาพ น้ำปลาธรรมดาอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
สำหรับการปรุงอาหารให้คนในครอบครัวที่มีความต้องการด้านโภชนาการแตกต่างกัน อาจพิจารณามีทั้งสองแบบไว้ในครัว
ไม่ว่าคุณจะเลือกน้ำปลาแบบไหน สิ่งสำคัญคือการใช้อย่างพอเหมาะ และตระหนักถึงปริมาณโซเดียมที่ได้รับในแต่ละวัน การใส่ใจเรื่องการบริโภคเป็นก้าวแรกของการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน!
มาเปลี่ยนมาใช้น้ำปลา Low Sodium กันเถอะ!
หากคุณกำลังมองหาทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการเปลี่ยนน้ำปลาในครัวของคุณเป็นแบบ Low Sodium วันนี้! หรือสามารถทานอาหารจากร้าน Under360 ได้เช่นกัน !
สมัครสมาชิกได้รับส่วนลด 50 บาท สำหรับลูกค้าใหม่
คลิกสั่งซื้อเลย
Comments